บล็อคนี้จะเป็นอันที่เขียนจริงจังหน่อย ไม่ได้เขียนจริงจังมานานแค่ไหนแล้วนะ

เริ่มเรื่องเลย เราได้ลองทำการลดน้ำหนักด้วยวิธีการต่าง ๆ มามากมายแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กินคลีน กิน Intermittent fasting ไม่กินแป้ง และ อื่นๆ ถามว่าลดไหม มันก็ลดแหละแต่ทำได้ไม่นานก็เลิก (นานสุด 2 เดือน) พอเลิกเสร็จแน่นอนนน้ำหนักก็กลับมาขึ้นใหม่ ก็เลยมานั่งคิดดูว่าเพราะอะไร ได้เหตุผลตามนี้

  1. มันทรมานตัวเองเกินไป แต่ละวันทำงานก็เหนื่อยอยู่แล้ว ยังต้องมาทนหิวอีก
  2. เวลาที่เลิกเกือบทุกครั้ง ทำมักจะเป็นเวลาที่ไปทำอย่างอื่น หรือ นอกไปนอกสถานที่ มันเหมือนกับไม่ได้เป็นสิ่งที่เราทำประจำ
  3. เวลาในการทานอาหารค่อนข้างไม่ตรง
  4. ไม่รู้ว่าควรจะต้องทานอะไร ไม่ทานอะไร

ต่อมาเพื่อนคนนึงก็ได้แนะนำว่า ทำไมไม่ลองทานโปรตีนพืช เพราะมันสามารถช่วยให้อิ่มได้ และไม่อ้วน ก็งงๆ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพื่อนก็แนะนำมาให้เสร็จสรรพว่าน่าจะลอง โปรตีนพืชที่ชื่อ Fifthsappaya ตอนแรกก็ยังงง ๆ เข้าไปดูในเว็บในเฟส ก็มีข้อมูลเยอะ แต่อ่านไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ไหน ๆ เพื่อนแนะนำมาแล้วก็เอาเลยแล้วกัน ลองซื้อมาลองกล่องนึงสั่งจาก shopee เพราะมีส่วนลดพอดี

Fifthsappay จาก Shopee

เอามาลองชงทานก็เอ๊ะ อร่อยดีนะ เอาให้แฟนลองชิมก็ว่ารสชาติโอเค ไม่เหมือนโปรตีนชงแบบอื่น มันออกหวาน ๆ นิด ๆ มีกลิ่นกล้วย

แต่ที่ตกใจคือ … กินแล้วมันอิ่ม… แรก ๆ ไม่รู้ กินหลังอาหารเที่ยงปรากฏว่า อิ่ม มาก ๆ ดังนั้นใครจะลองทาน อย่าทานตอนอิ่มนะครับ

กลับมาเรื่อง นักกำหนดอาหาร พอเราหาข้อมูลมาขึ้น เข้าไปในเฟส และเว็บ พบว่าโปรตีนยี่ห้อนี้ มีบริการใหม่คือ “นักกำหนดอาหาร” ก็งงเข้าไปใหญ่ ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน ลองเข้าไปหาอ่านใน Google ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ จนต้องทักไปถามที่เพจ สรุปง่าย ๆ ก็คือ ถ้าซื้อโปรตีนครบชุด จะมีคนมาวิเคราะห์ข้อมูลของเรา และบอกว่าควรกินอะไร เท่าไหร่ไม่ควรกินอะไร ตามรูปโฆษณาข้างล่าง

ก็เลย เอาน่ะ ลองสักหน่อย เพราะมันแก้ปัญหาของเราได้ คือ กินแล้วอิ่ม ไม่กดดันเกิน แถมเท่าที่คุยคือ หลักการของนักกำหนดอาหารคือ ไม่ได้กินให้หิวแบบทรมาน แต่อิ่มพอดี เหมาะสมกับร่างกาย ประมาณนี้

จึงได้ชวนแฟนมาลองด้วยกัน จัดไปเลยชุดใหญ่ 2 ชุด เจอกับนักกำหนดอาหาร สัปดาห์ละครั้ง ได้โปรตีนมาทานทุกวันเป็นเวลาเดือนกว่า ๆ อีก แถมได้แถมแก้วเชคมาด้วย

จัดชุดใหญ่ ต้องถ่ายรูปไว้หน่อย

หน้าตากล่อง และซองโปรตีนเป็นแบบนี้

วิธีการง่าย ๆ ในการคุยกับนักกำหนดอาหาร เพียงแค่เราสั่งซื้อโปรตีนพร้อมคอร์สเสร็จ ทางเพจก็จะนัดวันเวลาให้เราคุยกับนักกำหนดอาหาร เมื่อถึงวัน นักกำหนดอาหารก็จะทำการโทรมาหาเรา เราเลือกทางไลน์ สิ่งที่น้องเค้าถามก็คือ อายุ อาชีพ กิจวัตรประจำวัน โรคประจำตัว และอื่น ๆ พอคุยเสร็จน้องเค้าก็หายไปครึ่งวัน จากนั้นจึงส่งผลการวิเคราะห์มาให้เราว่าเราควรจะทานอะไรบ้างในแต่ละวัน ของเราได้ข้อมูลว่า ในแต่ละมื้อเรา ควรจะทาน ข้าว/แป้งมื้อละไม่เกิน 3 ทัพพี ผักไม่เกิน 3 ทัพพี น้ำตาลไม่เกิน 3 ช้อนชา และโปรตีนไม่เกิน 9 ช้อนโต๊ะ และมื้อนึงจะแทนด้วยโปรตีน Fifthsappaya เลยก็ได้ จริงๆ มีรายละเอียดเยอะกว่านี้ แต่ขอเล่าแค่นี้พอ

แรกๆ ฟังก็งง ๆ ว่าทำไมถึงนับหน่อยเป็นช้อนโต๊ะ ไม่ได้บอกเป็นกี่แคล กี่กรัมอะไรแบบนี้ แต่พอมาลองใช้ในชีวิตจริง มันเวิร์กแฮะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อะไรพิเศษมาทำการวัดเลย ว่ากินเท่าไหร่

คุยกันเสร็จก็เริ่มวางแผนการกินละ แรกๆก็ งง ๆ ว่าอันนี้กินได้ไหม เยอะไปไหม น้อยไปไหม พอครบ สัปดาห์ เราก็ซัดคำถามนักกำหนดอาหารไปเต็มที่ ที่สำคัญ ต้องถ่ายรูปอาหารที่ทานเก็บไว้เพื่อส่งให้นักกำหนดอาหารวิเคราะห์ด้วยนะ

ตัวอย่างแชทที่คุยกับนักกำหนดอาหาร
ตัวอย่างภาำพอาหารที่ทาน

ปรากฏว่าสัปดาห์แรกผ่านไป มีความสุขมาก ๆ เราเลือกกินโปรตีนแทนตอนมื้อเย็น แต่บางทีมันก็หิวกลางดึก ถามน้องเค้าก็บอกว่าทานนมอะไรลดหิวได้จะได้ไม่ทรมาน พยายามไม่ช่างน้ำหนักบ่อย เดี๋ยวจะกดดันตัวเอง เอาเป็นว่านอกจากเลือกสิ่งที่กินกับ กินโปรตีนพืช Fifthsappaya ตอนเย็นแทนข้าวแล้ว อย่างอื่นใช้ชีวิตตามปกติทุกอย่างพอครบสัปดาห์แรก มาลองชั่งน้ำหนักดู….พอใจอยู่นะ เพราะใช้ชีวิตได้ปกติเลย ลองดูจากรูป Day 1 และ Day 7

น้ำหนัก Day 1
Day 7

สัปดาห์ที่ 2 เริ่มเกิดความอยากมากขึ้น อยากกินนั่นกินนี่เยอะ ๆ ไปหมด เลยถามน้องเค้าดูว่า เรามีวันโกง หรือ Cheat day ไหม น้องเค้าบอกว่ามีได้ 1 วันต่อสัปดาห์ ก็สบายสิ แต่อยากให้ทานแบบเลือกนิดนึง เช่นไปทานชาบูก็ระวังอย่าทานน้ำจิ้มเยอะ หรือกินเนื้อติดมันมาก ๆ ของทอด มากๆ เป็นต้น ก็จัดไป Shabushi มีโปร 1 แถม 1 ใช้คะแนน KTC แลกพอดี (ช่วงนี้น่าจะหมดแล้วมั้ง) พอทานเสร็จกลับรู้สึกผิดแฮะ ว่าทำไมเราอดมาหลายวัน มันจะพังแค่วันนี้หรือเปล่า (แต่ก็รู้สึกว่าชาบูอร่อยเป็นพิเศษนะ :P)

ปรากฏว่าพอหมดสัปดาห์ที่ 2….ลองไปชั่งน้ำหนักอีกครั้ง….

Day 14

99.2 กิโลกรัม ซึ่งถือว่า พอใจอย่างมาก! การที่เราสามารถลดไปได้ 2 กิโลกรัมภายใน 2 สัปดาห์ โดยไม่ทรมาน ไม่หิวโหย มันดีแบบนี้นี่เอง!

แต่ก็เสียดายเหมือนกันที่พอหมดสัปดาห์ที่ 2 แล้วต้องไปต่างจังหวัดกระทันหัน พอห่างบ้าน จะคุมอาหารก็ยากหน่อยละเพราะต้องซื้อกินตลอดเวลา ทำให้ไม่ค่อยได้ผลเหมือน 14 วันแรก แต่ระหว่างนั้นก็ส่งรูปอาหารให้น้องตามกำหนดนะเหมือนเป็นการสารภาพบาป น้องก็ดีมาก ๆ ให้กำลังใจตลอด ถึงจะคุมไม่ได้ 100% แต่มันก็ทำให้เรา ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการวางแผนอาหารให้เหมาะสมและมีส่วนประกอบที่ดี ปริมาณสารอาหารที่เราต้องการมากขึ้น เช่น เม็ดมะม่วงหิมพาน กุนเชียง ไข่นกกระทา สิ่งเหล่านี้ไม่ควรทาน เป็นต้น

ตอนนี้หมดคอร์สที่คุยกับน้องไปแล้ว แต่เราก็ยังทานโปรตีนพืช fifthsappaya เป็นมื้อเย็นอยู่ และพยายามคุมอาหารตามที่ได้ความรู้ว่า ซึ่งคิดว่าเพียงพอแล้ว น้ำหนักตอนนี้ก็ทรงๆ ที่ 99.x กก. ที่สำคัญคือ การทานแบบนี้เหมือนมันเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ประมาณว่าไม่ได้รู้สึกฝืน หรือทรมานที่จะต้องทาน…

ไว้มีเวลาจะมาอับเดทนะครับ ว่า ผลเป็นอย่างไรต่อไป

หากใครสนใจสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ที่ Shopee นะครับ ตามลิงค์ร้านนี้เลย

สำหรับแพจเกจที่ผมซื้อคลิกที่นี่